Carbon Footprint คืออะไร?
Carbon Footprint หมายถึงปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การขนส่ง การผลิตสินค้า และการใช้พลังงาน การคำนวณ Carbon Footprint เป็นขั้นตอนสำคัญในการตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจของเรา และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ทำไมการคำนวณ Carbon Footprint จึงสำคัญ?
การคำนวณ Carbon Footprint ช่วยให้เราสามารถระบุแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับปรุงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:
- การตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: การคำนวณช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้า การเดินทาง หรือการบริโภค ทำให้สามารถปรับพฤติกรรมให้มีความยั่งยืนมากขึ้น
- การส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ: การเข้าใจถึงการใช้พลังงานและทรัพยากรต่างๆ ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
- การปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและกฎหมายบังคับ: ปัจจุบันองค์กรต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การคำนวณ Carbon Footprint ช่วยให้องค์กรสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
กฎหมายและข้อบังคับของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ในประเทศไทย รัฐบาลได้ออกกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:
- แผนปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ประเทศไทยได้ประกาศแผนแม่บทและนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรวมถึงแผนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 20-25% ภายในปี พ.ศ. 2573
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535: กำหนดให้อุตสาหกรรมและภาคธุรกิจต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่กำหนด โดยต้องมีการประเมินและรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การเข้าร่วมข้อตกลงปารีส (Paris Agreement): ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงปารีส และมีข้อผูกพันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรักษาระดับอุณหภูมิโลกให้อยู่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยต้องดำเนินการตามแผนลดการปล่อยก๊าซอย่างต่อเนื่อง
การลด Carbon Footprint ทำได้อย่างไร?
- การลดการใช้พลังงานไฟฟ้า: การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและการปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน
- การใช้พลังงานทดแทน: การใช้พลังงานจากแหล่งที่ยั่งยืน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลม เพื่อลดการปล่อยก๊าซจากการใช้พลังงานฟอสซิล
- การลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น: ส่งเสริมการใช้การเดินทางร่วมกัน การใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
เครื่องมือการคำนวณ Carbon Footprint
การคำนวณ Carbon Footprint เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยให้เราตระหนักถึงผลกระทบจากกิจกรรมต่างๆ ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นก้าวแรกสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้เครื่องมือการคำนวณไม่เพียงแต่ช่วยให้เรารับรู้ข้อมูลที่จำเป็น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของประเทศไทยในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างเครื่องมือการคำนวณ Carbon Footprint

สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME
Contracts Agreement’s required for SME สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME “ปิดจุดอ่อนสัญญาธุรกิจ! กับ 4 สัญญาสำคัญ ที่ SME ควรรู้ก่อนเริ่มธุรกิจ” ในปัจจุบันมีกลุ่มคนทำงานที่ตัดสินใจหันหลังให้กับงานประจำที่จำเจและน่าเบื่อหน่าย ไม่เป็นอิสระ หรือกลุ่มคนที่ตระหนักว่างานที่ตนทำไม่ได้ตอบสนองทางการเงินให้ได้เพียงพอ จึงต้องเพิ่มรายได้ด้วยการมีงานที่สอง หรือ Second Job หรือแม้แต่นักศึกษาที่ประสงค์ทำงานที่มีอิสระ จัดการเวลาของตนเองได้

ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร?
Why Everyone Should Plan for Retirement at Young Age and How? ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร? “การวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เสมือนการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในอนาคต” เมื่อพูดถึงคำว่า “เกษียณอายุ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนมีอายุไม่จำเป็นต้องรีบไตร่ตรอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ สังคม ตลอดจนทั้งเรื่องการเงิน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System
ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น

What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?
Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร

What is a CFO? What is the scope of measurement?
CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ

Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?
ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น