Current KPI Dashboard Tools

"KPI Dashboard คืออะไร? "

KPI Dashboard คือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการวัดและติดตามผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators – KPI) ขององค์กรหรือหน่วยงานต่างโดย KPI Dashboard จะรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและแสดงในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟ ตาราง หรือแผนภูมิ ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์และผลการทำงานได้อย่างรวดเร็ว 

KPI Dashboard ใช้ทำอะไร?

  1. การติดตามผลการดำเนินงาน: ช่วยให้ผู้บริหารสามารถติดตามผลการทำงานในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินความก้าวหน้าและปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสม 
  2. การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์: ข้อมูลที่แสดงใน Dashboard ช่วยในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจที่ผิดพลาด 
  3. การสื่อสารภายในองค์กร: KPI Dashboard สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารข้อมูลสำคัญระหว่างทีมงานและผู้บริหาร ช่วยสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับเป้าหมายและผลการทำงาน 
  4. การระบุปัญหา: ช่วยในการระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน ช่วยให้สามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันที 

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเครื่องมือยอดนิยมในปัจจุบันประกอบด้วย Power BI, Tableau และ Looker โดยจะบอกถึงข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างของแต่ละเครื่องมือ 

Power BI

Power BI คือ เครื่องมือที่พัฒนาโดย Microsoft ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลแบบง่าย ๆ และการรวมเข้ากับระบบอื่นของ Microsoft  [Download Power BI] 

ข้อดี

  1. การใช้งานง่าย : ด้วย Power BI มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ทำให้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดก็สามารถสร้างแดชบอร์ดได้อย่างง่ายดาย
  2. การใช้รวมกับผลิตภัณฑ์ Microsoft : Power BI สามารถรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Microsoft เช่น Excel, Azure, และ Dynamics 365 ได้อย่างง่ายดาย ทำให้การนำเข้าข้อมูลและการวิเคราะห์เป็นเรื่องง่าย
  3. การวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ : Power BI มีความสามารถในการอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลล่าสุดได้ทันที ทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
  4. การรองรับข้อมูลจำนวนมาก : Power BI สามารถจัดการและแสดงผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลในระดับองค์กรเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ข้อเสีย

  1. ข้อจำกัดในการปรับแต่ง : แม้ Power BI จะมีการใช้งานที่ง่าย แต่มีข้อจำกัดในการปรับแต่งรายละเอียดของแดชบอร์ด ทำให้ผู้ใช้บางคนอาจรู้สึกถึงความไม่ยืดหยุ่นในการสร้างแดชบอร์ดที่ซับซ้อน
  2. การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอก : การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอกที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของ Microsoft อาจจะซับซ้อนกว่าและต้องการการตั้งค่าที่ละเอียด

Tableau

Tableau คือ เครื่องมือที่เน้นการสร้างภาพข้อมูลและการวิเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและการปรับแต่งที่หลากหลาย [Download Tableau] 

ข้อดี

  1. ความสามารถในการสร้างภาพข้อมูล : Tableau มีความสามารถในการสร้างภาพข้อมูลที่หลากหลายและซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้นและสามารถนำเสนอข้อมูลได้หลากหลาย
  2. การปรับแต่งและการเขียนสูตร : Tableau มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งและการเขียนสูตรสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างการวิเคราะห์ที่ตรงตามความต้องการได้มากขึ้น
  3. การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลากหลาย : Tableau สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลายประเภทได้ เช่น SQL, Excel, Google Sheets และอื่น ๆ ทำให้การนำเข้าข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น

ข้อเสีย

  1. การเรียนรู้ที่ใช้เวลา : Tableau มีการใช้งานที่ซับซ้อนกว่า Power BI ทำให้ผู้ใช้ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับตัวในการใช้งานเครื่องมือมากกว่า
  2. ราคาแพง : ค่าใช้จ่ายในการใช้ Tableau สูงกว่า Power BI โดยเฉพาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด

Looker

Looker คือ เครื่องมือที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการเชื่อมต่อกับระบบ Big Data เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการสร้างรายงานที่ยืดหยุ่น  [Download Looker] 

ข้อดี

  1. การวิเคราะห์ที่ยืดหยุ่น : Looker มีการเขียนโค้ดแบบ LookML ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดรูปแบบการวิเคราะห์ได้ตามต้องการ ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การเชื่อมต่อกับ BigQuery : Looker สามารถเชื่อมต่อกับ Google BigQuery ได้ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว
  3. การรายงานแบบฝังตัว : Looker สามารถฝังรายงานและแดชบอร์ดเข้าไปในแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ ทำให้การนำเสนอข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น

ข้อเสีย

  1. ความซับซ้อนในการตั้งค่า : Looker ต้องการการตั้งค่าที่ซับซ้อนกว่าเครื่องมืออื่น ๆ และต้องการความรู้ทางเทคนิคสูง ทำให้การเริ่มต้นใช้งานอาจจะยุ่งยากสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มเริ่มต้น
  2. ราคาแพง : Looker มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่มีงบประมาณจำกัด ทำให้อาจไม่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็ก

ตารางความแตกต่างระหว่าง Power BI, Tableau และ Looker

สรุป

การเลือกใช้เครื่องมือ KPI Dashboard ที่เหมาะสมจะช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง Power BI, Tableau และ Looker มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานควรพิจารณาตามความต้องการขององค์กรและความสามารถในการใช้งานของผู้ใช้งาน Power BI เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft ได้ดี Tableau เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและการสร้างภาพข้อมูลที่ซับซ้อน ส่วน Looker เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลที่ยืดหยุ่นและการเชื่อมต่อกับ BigQuery 

สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME

Contracts Agreement’s required for SME สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME   “ปิดจุดอ่อนสัญญาธุรกิจ! กับ 4 สัญญาสำคัญ ที่ SME ควรรู้ก่อนเริ่มธุรกิจ”       ในปัจจุบันมีกลุ่มคนทำงานที่ตัดสินใจหันหลังให้กับงานประจำที่จำเจและน่าเบื่อหน่าย ไม่เป็นอิสระ หรือกลุ่มคนที่ตระหนักว่างานที่ตนทำไม่ได้ตอบสนองทางการเงินให้ได้เพียงพอ จึงต้องเพิ่มรายได้ด้วยการมีงานที่สอง หรือ Second Job หรือแม้แต่นักศึกษาที่ประสงค์ทำงานที่มีอิสระ จัดการเวลาของตนเองได้

Read More »

ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร?​

Why Everyone Should Plan for Retirement at Young Age and How? ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร? “การวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เสมือนการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในอนาคต”   เมื่อพูดถึงคำว่า “เกษียณอายุ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนมีอายุไม่จำเป็นต้องรีบไตร่ตรอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ สังคม ตลอดจนทั้งเรื่องการเงิน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก 

Read More »

Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System

ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น

Read More »

What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?

Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร

Read More »

What is a CFO? What is the scope of measurement?

CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ

Read More »

Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?

ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Read More »

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
Mayade Consulting