วิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวัน องค์กร และการเกษตร
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นสำคัญที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยหนึ่งในสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเกิดจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ทั้งในชีวิตประจำวัน การทำงานในองค์กร และภาคการเกษตร ก๊าซเรือนกระจกเช่น คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และมีเทน (CH₄) ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ภาวะโลกร้อน (Global Warming) และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศ เช่น การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก น้ำท่วม พายุที่รุนแรงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเกษตรทั่วโลก
เพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน หรือการนำมาตรการใหม่ๆ มาใช้ในองค์กรและภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน ต่อไปนี้คือแนวทางที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ในแต่ละภาคส่วน
การลดก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวัน
กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรามีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมาก ทั้งจากการใช้พลังงาน การบริโภคอาหาร และการเดินทาง แต่ละบุคคลสามารถเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมได้ ดังนี้:
การบริโภคอาหารอย่างพอดีและลดขยะอาหาร
การบริโภคอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและลดการทิ้งขว้างเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก ขยะอาหารเป็นแหล่งของก๊าซมีเทนซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีอันตรายมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า นอกจากนี้ควรนำภาชนะส่วนตัวมาใช้เมื่อซื้ออาหารเพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวการแยกขยะและการรีไซเคิล
การแยกขยะก่อนทิ้งไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดในหลุมฝังกลบ แต่ยังส่งเสริมการรีไซเคิลวัสดุต่างๆ เช่น พลาสติก กระดาษ โลหะ และแก้ว เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเป็นการลดทรัพยากรและพลังงานที่ใช้ในการผลิตใหม่การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน
การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงานเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดการใช้พลังงานจากบ้านเรือน การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานยังช่วยลดการใช้พลังงาน “ไฟแฝง” ซึ่งเป็นพลังงานที่ยังคงถูกใช้แม้จะไม่ได้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าการใช้น้ำอย่างประหยัด
น้ำเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญ การใช้น้ำอย่างประหยัดสามารถช่วยลดพลังงานที่ใช้ในการสูบน้ำและการบำบัดน้ำ การปิดก๊อกน้ำขณะไม่ใช้งาน การใช้ฝักบัวที่ประหยัดน้ำ และการตรวจสอบระบบน้ำเพื่อป้องกันการรั่วไหล เป็นวิธีที่สามารถลดการสิ้นเปลืองน้ำได้เลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและบรรจุภัณฑ์ชนิดเติมแทนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้ง เป็นการลดขยะและช่วยส่งเสริมแนวทางการผลิตที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานน้อย เช่น หลอดไฟ LED ที่ประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานยาวนานการใช้ระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถประจำทาง หรือการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จักรยาน หรือการแชร์การเดินทาง (Carpooling) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางได้อย่างมาก การเดินหรือการปั่นจักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่เพียงลดก๊าซคาร์บอนแต่ยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย
การลดก๊าซเรือนกระจกในองค์กร
องค์กรเป็นหน่วยที่มีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การดำเนินกิจกรรมภายในองค์กรสามารถปรับปรุงให้มีความยั่งยืนมากขึ้นได้ ดังนี้:
การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
การปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กร ทุกองค์กรควรมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตรวจประเมินผลเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การลดการใช้พลังงานและการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทน
การติดตั้งระบบพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cells) จะช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล ซึ่งเป็นแหล่งของก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม พลังงานน้ำ หรือก๊าซชีวภาพ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพการลดการเดินทางโดยใช้ Work from Home (WFH)
ในยุคปัจจุบัน การทำงานจากที่บ้านหรือ Work from Home (WFH) ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการเดินทางไปทำงาน โดยการลดการใช้พาหนะและพลังงานในสำนักงาน การทำงานระยะไกลยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรภายในสำนักงาน เช่น ไฟฟ้า น้ำ และกระดาษการลดการใช้กระดาษและระบบดิจิทัล
องค์กรสามารถลดการใช้กระดาษได้โดยการเปลี่ยนการจัดการเอกสารมาใช้ระบบดิจิทัล เช่น การจัดเก็บเอกสารออนไลน์และการประชุมผ่านวิดีโอคอล ลดความจำเป็นในการพิมพ์เอกสาร ลดขยะกระดาษและลดการใช้ทรัพยากรในระยะยาว
การลดก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตร
ภาคการเกษตรเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ แต่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยวิธีการเหล่านี้:
การทำปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุการเกษตร
การนำเศษวัสดุจากการเกษตร เช่น ฟางข้าว หรือเปลือกพืช มาใช้ในการทำปุ๋ยหมักไม่เพียงช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการทิ้งเศษวัสดุเหล่านี้ในที่โล่งการผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์
การนำมูลสัตว์มาผลิตก๊าซชีวภาพเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตพลังงานทดแทน ช่วยลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตพลังงานการปลูกพืชหมุนเวียนและใช้ปุ๋ยอินทรีย์
การปลูกพืชหมุนเวียนช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของดินและลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต การใช้ปุ๋ยอินทรีย์จากธรรมชาติจะช่วยเสริมสร้างคุณภาพของดินและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในภาคการเกษตร
การควบคุมการใช้น้ำด้วยระบบน้ำหยดหรือการควบคุมระดับน้ำในนาข้าวสามารถช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการเกษตร และลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการใช้น้ำในภาคเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ความสำคัญและผลกระทบระยะยาว
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนกำลังทวีความรุนแรงขึ้น แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากทุกคนมีส่วนร่วม จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกของเรา
สิ่งที่ควรตระหนักคือการลดก๊าซเรือนกระจกไม่ได้เป็นเพียงการปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการปกป้องอนาคตของโลกใบนี้ ทั้งในด้านระบบนิเวศ สุขภาพของมนุษย์ และเศรษฐกิจ การนำมาตรการเหล่านี้ไปปฏิบัติจะช่วยให้เราและลูกหลานมีโลกที่น่าอยู่และยั่งยืนต่อไปในอนาคต
สนใจสอบถามคอร์ส :
ติดต่อ:
1. Inbox สอบถามได้นะคะ (ทีมงานจะส่งรายละเอียดให้ในแชทนะคะ)
2. ทัก LineOA: @mayadeconsulting
E-mail: [email protected]
Tel. 085 829 1536

สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME
Contracts Agreement’s required for SME สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME “ปิดจุดอ่อนสัญญาธุรกิจ! กับ 4 สัญญาสำคัญ ที่ SME ควรรู้ก่อนเริ่มธุรกิจ” ในปัจจุบันมีกลุ่มคนทำงานที่ตัดสินใจหันหลังให้กับงานประจำที่จำเจและน่าเบื่อหน่าย ไม่เป็นอิสระ หรือกลุ่มคนที่ตระหนักว่างานที่ตนทำไม่ได้ตอบสนองทางการเงินให้ได้เพียงพอ จึงต้องเพิ่มรายได้ด้วยการมีงานที่สอง หรือ Second Job หรือแม้แต่นักศึกษาที่ประสงค์ทำงานที่มีอิสระ จัดการเวลาของตนเองได้

ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร?
Why Everyone Should Plan for Retirement at Young Age and How? ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร? “การวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เสมือนการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในอนาคต” เมื่อพูดถึงคำว่า “เกษียณอายุ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนมีอายุไม่จำเป็นต้องรีบไตร่ตรอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ สังคม ตลอดจนทั้งเรื่องการเงิน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System
ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น

What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?
Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร

What is a CFO? What is the scope of measurement?
CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ

Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?
ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
