ISO 29110: มาตรฐานที่สำคัญสำหรับธุรกิจซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก
ISO 29110 เป็นมาตรฐานสากลที่มุ่งเน้นช่วยองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลางในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และระบบดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และการบริหารโครงการให้ดียิ่งขึ้น โดยเน้นไปที่การปรับปรุงคุณภาพการทำงานและกระบวนการผลิตขององค์กรที่มีทรัพยากรจำกัด ISO 29110 ถูกพัฒนาขึ้นโดย International Organization for Standardization (ISO) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในด้านคุณภาพ การปรับปรุงระบบ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นมาตรฐานสากลในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ความสำคัญของ ISO 29110 สำหรับธุรกิจซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก
มาตรฐาน ISO 29110 ช่วยให้องค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลางพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานผ่านการจัดการกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเป็นระบบ เนื่องจากหลายธุรกิจในกลุ่มนี้อาจมีทรัพยากรจำกัด ISO 29110 ช่วยลดความซับซ้อนและปรับกระบวนการให้เหมาะสมมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักในเรื่องของ:
การปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ ด้วยแนวทางที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อน ISO 29110 ช่วยองค์กรขนาดเล็กปรับปรุงกระบวนการพัฒนาและเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านการวางแผน การตรวจสอบ และการทดสอบ ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานและส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้ตรงเวลา
การจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ ISO 29110 เน้นการจัดการโครงการซอฟต์แวร์ตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การกำหนดขอบเขต การติดตามผล การประเมินความเสี่ยง ไปจนถึงการปิดโครงการ โดยมีกระบวนการที่ชัดเจนและเป็นระบบ ทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์ความเสี่ยงและวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม
การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เนื่องจากการจัดการกระบวนการที่มีประสิทธิภาพจะลดปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาและการส่งมอบซอฟต์แวร์ ISO 29110 จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดจากความผิดพลาดในขั้นตอนการผลิต นอกจากนี้ ยังช่วยองค์กรประหยัดทรัพยากรและสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โครงสร้างและกระบวนการของ ISO 29110
ISO 29110 ประกอบด้วยโครงสร้างและกระบวนการที่ออกแบบมาเพื่อองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้จริงโดยไม่ต้องการความซับซ้อนมากนัก โครงสร้างนี้แบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ตามความซับซ้อนขององค์กร ได้แก่:
ระดับ Entry องค์กรที่เริ่มต้นใหม่ในวงการซอฟต์แวร์สามารถเริ่มใช้งาน ISO 29110 ในระดับ Entry ซึ่งครอบคลุมกระบวนการพื้นฐานที่จำเป็น เช่น การวางแผน การจัดการโครงการ และการทดสอบเบื้องต้น
ระดับ Basic และ Intermediate เมื่อองค์กรขยายขอบเขตการทำงานและพัฒนาความซับซ้อนมากขึ้น องค์กรสามารถเลือกใช้ระดับ Basic หรือ Intermediate ที่ครอบคลุมกระบวนการเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบคุณภาพเชิงลึก การวิเคราะห์ข้อกำหนด และการพัฒนาการจัดการโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ระดับ Advanced สำหรับองค์กรที่มีขนาดใหญ่และต้องการกระบวนการที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระดับ Advanced เหมาะสมสำหรับการจัดการโปรเจ็กต์ที่ต้องการการพัฒนาอย่างเข้มข้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การจัดการกระบวนการซอฟต์แวร์ และการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด
การนำ ISO 29110 ไปใช้ในองค์กร
การนำ ISO 29110 ไปใช้ในองค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมหาศาล องค์กรจะต้องมีการวางแผนการนำไปใช้และประเมินความพร้อมขององค์กรเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การฝึกอบรมพนักงาน การให้ความรู้และฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับหลักการและแนวทางการทำงานของ ISO 29110 จะช่วยให้พนักงานเข้าใจในกระบวนการและสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานได้อย่างถูกต้อง
การประเมินกระบวนการในปัจจุบัน องค์กรควรประเมินกระบวนการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันและวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการตามหลักการของ ISO 29110
การวางแผนและกำหนดขอบเขต การวางแผนการใช้มาตรฐาน ISO 29110 และการกำหนดขอบเขตให้เหมาะสมกับทรัพยากรที่มีเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรสามารถใช้ขั้นตอนนี้เพื่อลดความซับซ้อนในการนำมาตรฐานไปใช้ในระยะเริ่มต้น
การติดตามและประเมินผล การติดตามและประเมินผลการนำมาตรฐาน ISO 29110 ไปใช้เป็นระยะ ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพและทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของ ISO 29110 สำหรับธุรกิจซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก
เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร: การได้รับมาตรฐาน ISO 29110 สามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและคู่ค้าได้
ช่วยปรับปรุงกระบวนการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ: มาตรฐานนี้เน้นให้ทีมงานสามารถปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และส่งมอบงานตามกำหนดเวลา
เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน: การมีมาตรฐานเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรมีความสามารถในการแข่งขันในตลาด และดึงดูดลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น
สรุป
ISO 29110 เป็นมาตรฐานที่มีบทบาทสำคัญสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลางในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี ซึ่งช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างมีคุณภาพ มั่นคง และมีประสิทธิภาพ การนำมาตรฐานนี้ไปใช้ในองค์กรไม่เพียงแค่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แต่ยังช่วยให้สามารถปรับตัวและแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น
สนใจสอบถามคอร์ส :
ติดต่อ:
1. Inbox สอบถามได้นะคะ (ทีมงานจะส่งรายละเอียดให้ในแชทนะคะ)
2. ทัก LineOA: @mayadeconsulting
E-mail: [email protected]
Tel. 085 829 1536
Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System
ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น
What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?
Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร
What is a CFO? What is the scope of measurement?
CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ
Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?
ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Why Should Companies Implement ISO Standards?
ทำไมบริษัทควรทำ ISO? ISO เป็นมาตรฐานระดับสากลที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือในสินค้าหรือบริการ ช่วยยกระดับการดำเนินงานขององค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยการรับรองมาตรฐาน ISO ช่วยให้องค์กรสามารถ: ปรับปรุงกระบวนการทำงานISO มักเกี่ยวข้องกับการกำหนดขั้นตอนและวิธีการที่ชัดเจนสำหรับการทำงาน ทำให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรมีประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดได้ สร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO เป็นการการันตีคุณภาพและความปลอดภัย ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในสินค้าหรือบริการมากขึ้น เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันองค์กรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO จะมีความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการเข้าร่วมประมูลงานหรือได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานการใช้มาตรฐาน ISO ช่วยให้การจัดการภายในองค์กรมีความเป็นระบบ ลดความสูญเสียที่ไม่จำเป็นและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล ส่งเสริมความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมบางมาตรฐาน ISO เน้นในเรื่องความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
The Importance of the Iceberg Model for Organizations: Understanding Employee Capabilities
ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model) สำคัญกับองค์กรอย่างไร? การขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ “พนักงานทุกคน” ซึ่งเป็นกำลังหลักที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ การเลือกสรรและพัฒนาบุคลากรจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และ “ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model)” เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้องค์กรเข้าใจพนักงานได้ดีขึ้น ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็งได้เปรียบเทียบความสามารถของคนเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่อยู่เหนือน้ำและส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งมีลักษณะดังนี้: ส่วนที่อยู่เหนือน้ำ (Visible Part)ส่วนนี้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนและสามารถพัฒนาได้ง่าย ประกอบไปด้วย: ทักษะและความรู้