ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model) สำคัญกับองค์กรอย่างไร?
การขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ “พนักงานทุกคน” ซึ่งเป็นกำลังหลักที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ การเลือกสรรและพัฒนาบุคลากรจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และ “ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model)” เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้องค์กรเข้าใจพนักงานได้ดีขึ้น
ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็งได้เปรียบเทียบความสามารถของคนเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่อยู่เหนือน้ำและส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งมีลักษณะดังนี้:
ส่วนที่อยู่เหนือน้ำ (Visible Part)
ส่วนนี้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนและสามารถพัฒนาได้ง่าย ประกอบไปด้วย:- ทักษะและความรู้ (Skills and Knowledge): เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะด้านเทคนิคต่างๆ ความรู้เฉพาะทาง หรือความสามารถในการแก้ปัญหา ทักษะเหล่านี้สามารถพัฒนาและเรียนรู้เพิ่มเติมได้ผ่านการฝึกอบรมและการศึกษาต่อเนื่อง
ส่วนที่อยู่ใต้น้ำ (Hidden Part)
ส่วนนี้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจากภายนอก แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนพฤติกรรมและความสามารถในการทำงาน ซึ่งประกอบไปด้วย:- บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ (Roles and Responsibilities): การแสดงบทบาทต่างๆ ภายในองค์กร เช่น การเป็นผู้นำทีมหรือการทำงานเป็นทีม ซึ่งมักสะท้อนถึงความรับผิดชอบในงาน
- ทัศนคติและค่านิยม (Attitudes and Values): มุมมองและความเชื่อที่มีต่อตนเองและผู้อื่น เช่น ความมั่นใจในตนเอง หรือการให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีม
- ลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพ (Personality): บ่งบอกถึงลักษณะนิสัยที่เป็นตัวตน เช่น ความเป็นมิตร ความอดทน หรือความตั้งใจในการทำงาน
- แรงจูงใจ (Motivations): แรงผลักดันที่ทำให้พนักงานพร้อมทุ่มเทเพื่อบรรลุเป้าหมาย เช่น แรงจูงใจในการได้รับการยอมรับ การพัฒนาอาชีพ หรือการทำงานเพื่อความสำเร็จ
ประโยชน์ของทฤษฎีภูเขาน้ำแข็งกับองค์กร
การคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสม
การใช้ Iceberg Model ในการคัดเลือกบุคลากรช่วยให้องค์กรสามารถเลือกคนที่มีทั้งทักษะที่จำเป็นและคุณสมบัติภายในที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร ทำให้พนักงานที่ได้รับการคัดเลือกมามีศักยภาพในการพัฒนาและเป็นส่วนหนึ่งของทีมได้อย่างลงตัวการวางแผนพัฒนาบุคลากร
การเข้าใจส่วนที่อยู่ใต้น้ำช่วยให้องค์กรสามารถจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมพัฒนาทักษะต่างๆ ได้ตรงจุด โดยมุ่งเน้นทั้งทักษะที่สามารถพัฒนาได้ทันทีและคุณลักษณะภายในที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน เพื่อให้พนักงานสามารถเติบโตไปพร้อมกับองค์กรการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อเข้าใจลักษณะนิสัยและแรงจูงใจของพนักงานแต่ละคน องค์กรสามารถจัดการวางแผนในการสร้างทีมให้มีความหลากหลายและเสริมสร้างจุดแข็งให้กับทีมในด้านต่างๆ ทำให้การทำงานมีความสมดุลและประสบความสำเร็จมากขึ้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การปรับปรุงและพัฒนาทั้งทักษะและคุณลักษณะภายในของพนักงานช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้พนักงานสามารถรับมือกับความท้าทายในการทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็งจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยให้สามารถเลือกคนให้เหมาะสมกับงาน วางแผนพัฒนาทักษะพนักงานได้อย่างแม่นยำ และทำให้การทำงานมีประสิทธิผลมากขึ้นในระยะยาว
สนใจสอบถามคอร์ส :
ติดต่อ:
1. Inbox สอบถามได้นะคะ (ทีมงานจะส่งรายละเอียดให้ในแชทนะคะ)
2. ทัก LineOA: @mayadeconsulting
E-mail: [email protected]
Tel. 085 829 1536

สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME
Contracts Agreement’s required for SME สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME “ปิดจุดอ่อนสัญญาธุรกิจ! กับ 4 สัญญาสำคัญ ที่ SME ควรรู้ก่อนเริ่มธุรกิจ” ในปัจจุบันมีกลุ่มคนทำงานที่ตัดสินใจหันหลังให้กับงานประจำที่จำเจและน่าเบื่อหน่าย ไม่เป็นอิสระ หรือกลุ่มคนที่ตระหนักว่างานที่ตนทำไม่ได้ตอบสนองทางการเงินให้ได้เพียงพอ จึงต้องเพิ่มรายได้ด้วยการมีงานที่สอง หรือ Second Job หรือแม้แต่นักศึกษาที่ประสงค์ทำงานที่มีอิสระ จัดการเวลาของตนเองได้

ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร?
Why Everyone Should Plan for Retirement at Young Age and How? ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร? “การวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เสมือนการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในอนาคต” เมื่อพูดถึงคำว่า “เกษียณอายุ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนมีอายุไม่จำเป็นต้องรีบไตร่ตรอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ สังคม ตลอดจนทั้งเรื่องการเงิน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System
ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น

What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?
Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร

What is a CFO? What is the scope of measurement?
CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ

Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?
ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น