ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คำว่า ESG กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก หลายคนอาจสงสัยว่า ESG คืออะไร และทำไมนักลงทุนควรให้ความสนใจ ESG ย่อมาจาก Environment (สิ่งแวดล้อม), Social (สังคม), และ Governance (ธรรมาภิบาล) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินความยั่งยืนและความรับผิดชอบขององค์กรในด้านต่าง ๆ โดยแนวคิดนี้กำลังมีบทบาทสำคัญในวงการการลงทุนทั่วโลก ไปดูกันว่าแต่ละด้านของ ESG คืออะไรและทำไมถึงมีความสำคัญขนาดนี้
ESG คืออะไร?
ESG ย่อมาจาก:
1. Environment (สิ่งแวดล้อม)
ด้านนี้เกี่ยวข้องกับ การรับผิดชอบขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การจัดการของเสีย, การใช้พลังงาน, และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลทางธรรมชาติและลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนักลงทุนมองว่าองค์กรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มจะสามารถดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
2. Social (สังคม)
เกณฑ์นี้เน้นที่ ความรับผิดชอบขององค์กรต่อผู้คน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น พนักงาน, ลูกค้า, ซัพพลายเออร์, และชุมชน การจัดการด้านสังคมที่ดีรวมถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน, การให้ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม, การส่งเสริมความหลากหลาย และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ซึ่งการจัดการที่ดีในด้านนี้สามารถสร้างความเชื่อมั่นและชื่อเสียงที่ดีให้กับองค์กร
3. Governance (ธรรมาภิบาล)
ส่วนนี้เกี่ยวข้องกับ การกำกับดูแลกิจการ ว่ามีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพียงใด เช่น การบริหารจัดการ, โครงสร้างคณะกรรมการ, ความโปร่งใสในการตัดสินใจ และการมีระบบควบคุมความเสี่ยงที่ชัดเจน องค์กรที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนว่าธุรกิจมีความโปร่งใส และพร้อมรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทำไมนักลงทุนถึงสนใจ ESG?
ในปัจจุบัน นักลงทุนไม่เพียงแค่พิจารณาผลกำไรทางการเงินเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อีกด้วย การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึง ESG สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรนั้นมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้ การที่องค์กรปฏิบัติตามแนวคิด ESG ยังช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมายและภาพลักษณ์ของบริษัท โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคและสังคมให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความเท่าเทียมมากขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนในบริษัทที่มีแนวทางตาม ESG ยังสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้มักจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
ESG เป็นแนวคิดที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการการลงทุนทั่วโลก เนื่องจากช่วยให้นักลงทุนมั่นใจว่าธุรกิจที่พวกเขาลงทุนมีความยั่งยืนและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยไม่เพียงแต่คิดถึงผลประโยชน์ทางการเงิน แต่ยังคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดีด้วย
สนใจสอบถามคอร์ส :
ติดต่อ:
1. Inbox สอบถามได้นะคะ (ทีมงานจะส่งรายละเอียดให้ในแชทนะคะ)
2. ทัก LineOA: @mayadeconsulting
E-mail: [email protected]
Tel. 085 829 1536
Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System
ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น
What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?
Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร
What is a CFO? What is the scope of measurement?
CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ
Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?
ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Why Should Companies Implement ISO Standards?
ทำไมบริษัทควรทำ ISO? ISO เป็นมาตรฐานระดับสากลที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือในสินค้าหรือบริการ ช่วยยกระดับการดำเนินงานขององค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยการรับรองมาตรฐาน ISO ช่วยให้องค์กรสามารถ: ปรับปรุงกระบวนการทำงานISO มักเกี่ยวข้องกับการกำหนดขั้นตอนและวิธีการที่ชัดเจนสำหรับการทำงาน ทำให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรมีประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดได้ สร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าการได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO เป็นการการันตีคุณภาพและความปลอดภัย ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในสินค้าหรือบริการมากขึ้น เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันองค์กรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO จะมีความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการเข้าร่วมประมูลงานหรือได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานการใช้มาตรฐาน ISO ช่วยให้การจัดการภายในองค์กรมีความเป็นระบบ ลดความสูญเสียที่ไม่จำเป็นและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล ส่งเสริมความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมบางมาตรฐาน ISO เน้นในเรื่องความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
The Importance of the Iceberg Model for Organizations: Understanding Employee Capabilities
ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model) สำคัญกับองค์กรอย่างไร? การขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ “พนักงานทุกคน” ซึ่งเป็นกำลังหลักที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ การเลือกสรรและพัฒนาบุคลากรจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และ “ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Model)” เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้องค์กรเข้าใจพนักงานได้ดีขึ้น ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็งได้เปรียบเทียบความสามารถของคนเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่อยู่เหนือน้ำและส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งมีลักษณะดังนี้: ส่วนที่อยู่เหนือน้ำ (Visible Part)ส่วนนี้เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนและสามารถพัฒนาได้ง่าย ประกอบไปด้วย: ทักษะและความรู้