ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ การควบคุมคุณภาพและการจัดการกระบวนการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญต่อความสำเร็จของผลิตภัณฑ์และองค์กร โดยเฉพาะองค์กรขนาดเล็กที่มีทีมพัฒนาไม่เกิน 25 คน การรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO/IEC 29110 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและยกระดับคุณภาพของซอฟต์แวร์ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ยอมรับในระดับโลก
ISO/IEC 29110 คืออะไร?
ISO/IEC 29110 หรือ “Software Life Cycle Profiles and Guidelines for Very Small Entities (VSEs)” คือมาตรฐานที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้การรับรองกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์และการบริหารจัดการสำหรับสถานประกอบการขนาดเล็ก (องค์กรที่มีทีมงานไม่เกิน 25 คน) มาตรฐานนี้เน้นการพัฒนากระบวนการซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับแนวทางสากล โดยลดทอนขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ง่ายขึ้น ประหยัดต้นทุน แต่ยังคงรักษาคุณภาพในทุกขั้นตอนของการพัฒนาซอฟต์แวร์
ทำไมมาตรฐาน ISO 29110 ถึงสำคัญสำหรับนักพัฒนาโปรแกรม?
การที่ซอฟต์แวร์หรือองค์กรได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 29110 ไม่เพียงแต่แสดงถึงคุณภาพของกระบวนการทำงานที่ได้มาตรฐานเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและคู่ค้า มาตรฐานนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ผ่านการควบคุมและตรวจสอบตามแนวทางที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งผลประโยชน์ที่สำคัญมีดังนี้:
- การพัฒนากระบวนการที่เป็นระบบ: ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO/IEC 29110 นักพัฒนาจะได้ใช้กระบวนการที่ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบ ช่วยลดความผิดพลาดในงาน ลดความซับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงทำให้การบริหารจัดการโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
- การประหยัดต้นทุน: การตัดทอนกระบวนการที่ไม่จำเป็น ช่วยลดทรัพยากรที่ใช้ในการพัฒนา ทั้งในด้านเวลาและงบประมาณ มาตรฐานนี้ช่วยให้องค์กรขนาดเล็กสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า: การได้รับการรับรอง ISO/IEC 29110 ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ลูกค้าจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่า ซอฟต์แวร์ที่ได้รับนั้นมีคุณภาพและผ่านกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดตามมาตรฐานสากล
- เสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร: องค์กรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้สามารถแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรในระยะยาว
- เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ: การได้รับการรับรอง ISO/IEC 29110 จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังตลาดที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากหลายองค์กรและคู่ค้าต่างก็ให้ความสำคัญกับการมีมาตรฐานสากลในการพัฒนาซอฟต์แวร์
กระบวนการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 29110
ขั้นตอนในการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 29110 สำหรับองค์กรขนาดเล็กจะประกอบด้วยการวางแผนและการปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับแนวทางที่ระบุในมาตรฐานนี้ โดยมีการตรวจสอบและประเมินผลในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ในองค์กรนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐาน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
ข้อดีของการได้รับ ISO/IEC 29110
- ความน่าเชื่อถือในตลาด: เมื่อองค์กรได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ จะได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ว่าซอฟต์แวร์ที่พัฒนามีคุณภาพสูงและเป็นไปตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน: การได้รับการรับรอง ISO ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
- การพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ: กระบวนการที่เป็นระบบช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงาน
สรุป
มาตรฐาน ISO/IEC 29110 เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ในองค์กรขนาดเล็ก ที่ช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า การได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างคุณภาพให้กับผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรในระยะยาว
หากคุณเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้ประกอบการในองค์กรขนาดเล็ก ถึงเวลาแล้วที่ควรให้ความสำคัญกับการปรับกระบวนการทำงานและผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO/IEC 29110 เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
สนใจสอบถามคอร์ส :
ติดต่อ:
1. Inbox สอบถามได้นะคะ (ทีมงานจะส่งรายละเอียดให้ในแชทนะคะ)
2. ทัก LineOA: @mayadeconsulting
E-mail: [email protected]
Tel. 085 829 1536

สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME
Contracts Agreement’s required for SME สัญญาพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับบริษัท SME “ปิดจุดอ่อนสัญญาธุรกิจ! กับ 4 สัญญาสำคัญ ที่ SME ควรรู้ก่อนเริ่มธุรกิจ” ในปัจจุบันมีกลุ่มคนทำงานที่ตัดสินใจหันหลังให้กับงานประจำที่จำเจและน่าเบื่อหน่าย ไม่เป็นอิสระ หรือกลุ่มคนที่ตระหนักว่างานที่ตนทำไม่ได้ตอบสนองทางการเงินให้ได้เพียงพอ จึงต้องเพิ่มรายได้ด้วยการมีงานที่สอง หรือ Second Job หรือแม้แต่นักศึกษาที่ประสงค์ทำงานที่มีอิสระ จัดการเวลาของตนเองได้

ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร?
Why Everyone Should Plan for Retirement at Young Age and How? ทำไมทุกคนถึงควรวางแผนเกษียณอายุตั้งแต่อายุยังน้อย และอย่างไร? “การวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย เสมือนการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในอนาคต” เมื่อพูดถึงคำว่า “เกษียณอายุ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนมีอายุไม่จำเป็นต้องรีบไตร่ตรอง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ สังคม ตลอดจนทั้งเรื่องการเงิน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

Why Family Businesses Should Have a Good Backend Management System
ทำไมธุรกิจครอบครัวต้องมี ‘ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี’? ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจครอบครัว หรือ ธุรกิจแบบเถ้าแก่ จึงไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้อีกต่อไป การมี ระบบจัดการหลังบ้านที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำไมต้องมีระบบจัดการ? การขยายสาขาเมื่อธุรกิจเติบโตและต้องการขยายสาขา การทำงานด้วยตัวเองทั้งหมดจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป การนำระบบต่างๆ มาใช้ เช่น ระบบจัดซื้อ ระบบสต็อก ระบบการขาย ระบบการผลิต การตลาด ระบบบัญชี หรือแม้แต่ระบบ HR จะช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปได้สะดวกขึ้น

What is Key Man Insurance? How to comply with the Revenue Department?
Key Man Insurance คืออะไร? ทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสรรพากร? ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมี ประกันคีย์แมน (Key Man Insurance) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถปกป้องตนเองจากความเสี่ยงที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร เช่น กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูง ประกันคีย์แมนคืออะไร? ประกันคีย์แมน เป็นการทำประกันชีวิตสำหรับบุคคลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งในกรณีที่บุคคลนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตหรือไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะได้รับเงินก้อนจากบริษัทประกัน เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ประสบปัญหาทางการเงิน วิธีทำประกันคีย์แมนให้ถูกต้องตรงใจสรรพากร เพื่อให้การทำประกันคีย์แมนเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสรรพากร

What is a CFO? What is the scope of measurement?
CFO คืออะไร? มีขอบเขตการวัดอย่างไร? ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกองค์กร CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นต์ขององค์กร คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบและวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ภายในองค์กร ทำไม CFO ถึงสำคัญ? CFO เป็นข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การทำ CFO ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ

Why do organizations need to conduct risk assessment (Risk Management)?
ทำไมองค์กรต้องประเมินความเสี่ยง (Risk Management)? การประเมินความเสี่ยงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินธุรกิจ การเงิน กฎหมาย หรือความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้องค์กรสามารถรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างเหมาะสม ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง ลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดและความเสียหายการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน รักษาความสม่ำเสมอในการดำเนินงานด้วยการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบและต่อเนื่อง องค์กรสามารถควบคุมผลกระทบและลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่วางแผนไว้ เสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรเมื่อองค์กรมีการประเมินและจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ผู้ถือหุ้น หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามแผนที่กำหนด สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ข้อมูลจากการประเมินความเสี่ยงช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรการประเมินความเสี่ยงช่วยให้องค์กรสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น