การท่องเที่ยวแบบ New Normal ถูกหยิบยกออกมาเป็นประเด็นหลักในการรณรงค์การท่องเที่ยวหลังจากที่มีการผ่อนคลายล๊อกดาวน์และมีการเปิดประเทศอีกครั้ง เพราะแม้สถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนั้นลดลงแล้วแต่ก็ยังต้องมีป้องกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายตัวจนต้องล็อคดาวน์อีกครั้ง
การท่องเที่ยวแบบ New Normal คืออะไร หากจะแปลให้ตรงตัวก็จะหมายถึง “รูปแบบการท่องเที่ยวในวิถีใหม่ที่จะต้องทำให้เป็นปกติ” นั่นก็คือการท่องเที่ยวหรือการใช้ชีวิตจะมีขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นมา ที่เราจะต้องปฏิบัติให้เป็นปกติ จนกลายเป็นสิ่งที่ทำเป็นประจำในชีวิตประจำวัน โดยภาครัฐได้มีการกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติการท่องเที่ยวแบบ New Normal ดังนี้
ข้อปฏิบัติการท่องเที่ยวแบบ New Normal สำหรับการผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการ
- มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย โดยห้างร้าน หรือสถานที่ให้บริการต่าง ๆ จะต้องมีเครื่องวัดอุณหภูมิติดตั้ง เพื่อคัดกรองเบื้องต้น ป้องกันผู้ที่ติดเชื้อเข้าไปแพร่กระจายในสถานที่ให้บริการ โดยจะใช้เกณฑ์อุณหภูมิเป็นหลัก
- ผู้ให้บริการหรือพนักงานจะต้องใส่หน้ากากและสวมถุงมือตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายจากพนักงานไปยังลูกค้า ผ่านทางอากาศและการสัมผัส
- จัดให้มีจุดล้างมือหรือจุดบริการแอลกอฮอร์ เพื่อสร้างความสะดวกในการล้างมือด้วยน้ำสะอาดหรือล้างด้วยด้วยแอลกอฮอร์ ทันทีที่มีการสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
- เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อลดการแพร่กระจายผ่านทางอากาศ เช่น การจัดโต๊ะให้ห่างกันมากขึ้น หรือทำสัญลักษณ์ห้ามนั่งในกรณีที่โต๊ะเก้าอี้นั้นขยับไม่ได้
- บันทึกประวัติการให้บริการผู้รับบริการหรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในร้าน โดยผู้ให้บริการอาจสร้าง qrcode ไทยชนะไว้ให้ผู้เข้ามาใช้งานสแกนผ่านสมาร์ทโฟน หรืออาจใช้การบันทึกแบบกระดาษก็ได้ ในกรณีที่ผู้ให้บริการหรือผู้รับบริการไม่สะดวกใช้งาน qrcode ไทยชนะ
- มีการกำหนดแนวเขตการให้บริการอย่างชัดเจน โดยอาจใช้เชือกหรือที่กั้น เป็นตัวกำหนดขอบเขตที่ลูกค้าสามารถเข้าไปได้ ทั้งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อไปยังสิ่งของอื่น ๆ ที่ไม่ได้ให้บริการได้
- มีระบบจัดการขยะ และของเสียที่ถูกสุขอนามัย ขยะหรือของเสียก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ต้องมีการจัดการที่ดี เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อผ่านทางขยะได้อีกทางหนึ่ง
- เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด โดยอาจเพิ่มรอบตารางการทำความสะอาดในสถานประกอบการ หรืออาจทำความสะอาดทุกครั้งในจุดที่มีการสัมผัสโดยตรงและมีความเสี่ยงสูง
ข้อปฏิบัติการท่องเที่ยวแบบ New Normal สำหรับในส่วนของนักท่องเที่ยว หรือผู้รับบริการ
- ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เป็นข้อปฏิบัติที่ผู้รับบริการต้องทำการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปใช้บริการ เพราะบางครั้งเราอาจไม่ทราบว่าเราติดเชื้อหรือไม่ ดังนี้เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อสังคม นักท่องเที่ยวจะต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปใช้บริการ
- สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา นอกจากพนักงานหรือผู้ให้บริการที่จะต้องสวมหน้ากากและถูงมือแล้ว ผู้รับบริการก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยเช่นกัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปในอากาศ หากมีการติดเชื้อ
- ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮออล์บ่อยครั้ง ซื่งในข้อปฏิบัตินี้จะตอบรับกับสถานประกอบการที่จัดเตรียมจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการ โดยผู้ใช้บริการควรล้างมือก่อนเข้าไปใช้บริการเพื่อป้องกันการนำเชื้อไปกระจายผ่านสิ่งของ และควรล้างมือหลังการใช้บริการเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย หากไปจับสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสเกาะอยู่
- เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร เป็นอีกหนึ่งข้อปฏิบัติที่ตอบรับกับผู้ให้บริการที่จะจัดที่นั่งให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อจากลูกค้ากลุ่มหนึ่งไปอีกกลุ่มหนึ่ง
- เปลี่ยนการชำระเงินด้วยเงินสดเป็นระบบโอนเงิน พร้อมเพย์ eWallet ในข้อปฏิบัตินี้ จะเห็นได้ว่าภาครัฐมักออกนโยบายการใช้ระบบชำระด้วยการโอนเงิน ออกมาเป็นโครงการต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยในด้านค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยให้ลดการสัมผัสเงินสดได้อีกทาง ซึ่งมีผู้ติดเชื้อไม่น้อย ที่ติดเชื้อผ่านการสัมผัสเงินสดนั่นเอง
จะเห็นได้ว่า แนวทางการท่องเที่ยวแบบ new normal ที่กำหนดออกมานั้น ก็คือการใช้ชีวิตประจำวันแบบ new normal ที่เราทำกันอยู่ทุกวันนับตั้งแต่มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องกลับไปสู่การล๊อกดาวน์อีกครั้งครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์ กรมการท่องเที่ยว